ผู้เล่นจะเข้าสู่การต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งสติปัญญาและความอดทน โดยวัตถุประสงค์ของโหมดนี้คือการมาปลดล๊อกแมกซ์เวลนั่นเอง (แต่สำหรับใครที่ปลดล๊อกแมกซ์เวลสำเร็จไปแล้ว มาเล่นอีกรอบก็จะเป็นการกลับมาช่วยตัวละครอื่นๆ ที่ตัวเองเล่นเอาไว้เหมือนผู้เขียนดังภาพล่างสุดค่ะ)
ในแต่ละด่าน ผู้เล่นจะต้องอยู่รอดเพื่อรวบรวม Thing ทั้ง 4 ชิ้น ไปประกอบกับ Wooden Thing เพื่อผ่านไปสู่ด่านต่อไป ซึ่งมีทั้งหมด 6 ด่าน ถ้าตายต้องเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ด่านแรก แต่ละด่านระบบจะสุ่มให้เอง ไม่ได้เรียงลำดับ 1-6 นะคะ นั่นหมายความว่าผู้เล่นจะต้องศึกษาข้อมูลของทั้ง 6 ด่านก่อน เพื่อจะได้เตรียมตัวทันในด่านต่อไปค่ะ สำคัญมาก บางด่านยากมากนะคะ
ในการหา Thing ผู้เล่นจะเผชิญกับมอนสเตอร์ต่างๆ เหมือนใน Survival Mode แต่จะยากกว่าตรงที่เราจำเป็นต้องฝ่าฟันเข้าไปเอา Thing และบางครั้งจำเป็นต้องต่อสู้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทุกครั้งที่ผ่านด่านผู้เล่นจะนำไอเทมผ่านประตูไปได้แค่ 4 อย่าง
หากตายใน Adventure Mod ผู้เล่นจะตื่นมาอยู่หน้าประตูแมกซ์เวลใน Survival Mode(โหมดปกติ) และกลับเข้าไปได้อีกถ้าต้องการ แต่ต้องจะเริ่มด่านแรกใหม่
- แต่ละด่านไม่ควรอยู่หลายวัน หากเจอแคมป์วอลรัสให้หาทางเอาเขี้ยวมาทำไม้เท้าให้ได้เพราะจะช่วยวิ่งเร็วขึ้น
- ในด่านแรกผู้เล่นควรสร้างอุปกรณ์สำคัญให้หมด เพื่อที่ด่านต่อไปจะได้ไม่ต้องสร้างเครื่องวิจัยอีก
- Thing จะไม่มีในโซนที่ผู้เล่นเกิด หาโซนอื่นได้เลย
- Divining Rod จะมีให้ตอนเริ่มต้นด่าน เอาไปด้วยเพราะต้องใช้ในการผ่านด่านและปลดล๊อคแมกซ์เวล
- วิธีฆ่าพวก Clockwork Monsters
ด่านทั้งหมดใน Adventure Mode ผู้เขียนๆจากการเล่นในภาค Reign of Giants DLC แต่ภาคปกติก็สามารถใช้แนวทางเดียวกันได้ค่ะ
- แต่ละด่านไม่ควรอยู่หลายวัน หากเจอแคมป์วอลรัสให้หาทางเอาเขี้ยวมาทำไม้เท้าให้ได้เพราะจะช่วยวิ่งเร็วขึ้น
- ในด่านแรกผู้เล่นควรสร้างอุปกรณ์สำคัญให้หมด เพื่อที่ด่านต่อไปจะได้ไม่ต้องสร้างเครื่องวิจัยอีก
- Thing จะไม่มีในโซนที่ผู้เล่นเกิด หาโซนอื่นได้เลย
- Divining Rod จะมีให้ตอนเริ่มต้นด่าน เอาไปด้วยเพราะต้องใช้ในการผ่านด่านและปลดล๊อคแมกซ์เวล
- วิธีฆ่าพวก Clockwork Monsters
ด่านทั้งหมดใน Adventure Mode ผู้เขียนๆจากการเล่นในภาค Reign of Giants DLC แต่ภาคปกติก็สามารถใช้แนวทางเดียวกันได้ค่ะ
ด่านนี้เป็นโลกธรรมดาแต่จะมีฝนตกในช่วงฤดูร้อนเป็นเวลา 6 วัน และหิมะตกในช่วงฤดูหนาวเป็นเวลา 3 วัน แต่จะไม่พบเดียร์คอป Deerclops เนื่องจากฤดูหนาวที่สั้น
ฝนจะทำให้สติลดตลอดเวลา ควรรีบสร้างเสื้อกันฝน อาจมีฝนกบในช่วงแรกหรืออาจไม่มีเลยก็ได้ แม้กบจะทำให้มีอาหารกินมากมาย แต่การใช้ชีวิตลำบากมาก เพราะต้องคอยระวังตลอดเวลา ผู้เล่นควรทำกับดักไว้หลายอันเพื่อดักกบ และอย่าไปตีกับมันเพราะมันเยอะมาก
สะพานจะมีหมูการ์เดียนขวางอยู่ ใส่เกราะและวิ่งหลบๆ ฝ่าไปเลย อย่าหยุดวิ่ง ถ้าถูกรุมก็ให้วิ่งต่อไป
King of Winter สุ่มเจอในด่าน 1-4
จะมีกองไฟ 1 กองตอนเริ่มเกมส์ และวัสดุอีกเล็กน้อย คบไฟ หินร้อน ถ้าโชคดีอาจได้พิมพ์เขียว เสื้อกันหนาวและหมวกฤดูหนาว(Winter Hat)
พืชจะไม่โต ยกเว้นต้นสน ฉะนั้นเผาต้นพืชสร้างความอบอุ่นได้เลย ถ้าเป็นหญ้าหรือกิ่งไม้ควรเก็บก่อนค่อยเผาจะได้ไม่เสียของ พื้นที่ที่ผู้เล่นเกิดจะมีตุ่นอยู่หลายจุด วางหินหรือขี้เถ้าล่อมันและฆ่าเอาไว้กินเวลาฉุกเฉิน ระหว่างนี้ผู้เล่นควรเก็บวัสดุให้ได้มากๆ พื้นที่เกิดจะมีหญ้า กิ่งไม้ แครอท เบอร์รี่ อยู่เยอะ เก็บให้ได้มากที่สุด และรีบหาควายเพื่อทำหมวกเขาควาย เพราะกันหนาวได้ 2 นาที หรือตามรอยช้างเพื่อเอางวงทำเสื้อกันหนาว แต่ระวัง ถ้าแกะรอยช้างประมาณตัวที่ 3 อาจเจอ Varg หมาล่าเนื้อตัวใหญ่
เดียร์คอปบอสกวางตาเดียว(Deerclops) อาจเกิดในวันที่ 7-9 ถ้าเจอให้ฆ่ามันเพื่อเอาเนื้อไว้กิน(ได้เนื้อ 8 ชิ้น) หรือหนีมันโดยการล่อให้ไปตีกับตัวอะไรซักอย่างและอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีไป เดียร์คอปไม่ค่อยติดตามเราเหมือนยักษ์ตัวอื่น
สะพานจะถูกขวางด้วยหินธรรมดาหรือหิน Obelisks การจะผ่านหิน Obelisks ไปได้ อยู่ที่ว่ามันต้องการสติผู้เล่นในระดับไหน ถ้าโชคดีก็ผ่านไปได้โดยไม่ต้องลดสติ
แต่ถ้า Obelisks ต้องการสติต่ำกว่า 30 ผู้เล่นต้องไปหาทางลดสติตัวเอง ซึ่งมีหลากหลายวิธี
- ก่อไฟเวลากลางคืน แต่ตัวเราต้องไปยืนอยู่ในมุมมืดนะคะ เพื่อให้สติลดรัวๆ
- เก็บดอกไม้ปีศาจ สติจะลดดอกละ -5
- ขุดหลุมฝังศพ -10
- กินเนื้อดิบ -10
- กินเห็ดฟ้าดิบ -10 (เกิดเฉพาะกลางคืน แต่ขุดได้)
- กินเห็ดเขียวดิบ -50 (เกิดเฉพาะตอนค่ำ แต่ขุดได้)
ในด่านจะเจอ 2 สะพาน และมี Obelisks 2 จุด / 1 สะพาน ข้าม Obelisks ไปได้ทั้งสองอันก่อน ค่อยฟื้นสติ
ระวัง !
ก่อนจะลดสติ เตรียมเนื้อตากแห้งหรือเห็ดเขียวปรุงสุกไว้ด้วย เพราะปีศาจเงาจะไล่ล่าคุณจนกว่าสติจะเพิ่ม เมื่อข้ามสะพานได้แล้วให้รีบฟื้นสติ เอาอาหารไว้ในช่อง 1-0 เพื่อกดใช้งานได้จากแป้นคีย์บอร์ด มันจะสะดวกเวลาเรากำลังวิ่งหนีจากการไล่ล่า คือ กินไปวิ่งไปได้เลย จริงๆ ตัวละครจะหยุดกิน 1-2 วิ ไม่ต้องสนใจให้วิ่งไปกินไปเลยค่ะ
The Game is Afoot สุ่มเจอในด่าน 1-4
เริ่มเกมส์จะเป็นฤดูหนาว มีกองไฟ หมวกฤดูหนาว(Winter Hat) และวัสดุเล็กน้อยให้ตอนเริ่ม หรือโชคดีอาจได้พิมพ์เขียว ฤดูหนาวมีระยะเวลา 10 วัน หลังจากนั้นจะเป็นฤดูใบไม้ผลิยาว ฝนตกทุกวัน หมาล่าเนื้อ(Hound) จะโจมตีในช่วงนี้ ผู้เล่นจึงควรผ่านด่านนี้ให้ได้ก่อนหมดฤดูหนาว
ด่านนี้เป็นเขาวงกต 4 โซน และ Thing จะอยู่ใน 4 โซนนี้ บางโซนมี Thing 2 อัน แต่ละโซนผู้เล่นไม่จำเป็นต้องฆ่า เพียงแค่มีเกราะไม้ (Log Suit) ถ้ามีหมวกฟุตบอล(Football Helmet) ด้วยยิ่งดี แล้ววิ่งผ่านไปเฉยๆ เตรียมยาหรืออาหารเพิ่มเลือดไว้ด้วยก็ได้
โซนทั้ง 4 ได้แก่
- แมงมุม จะมีต้นไม้อยู่ใกล้กับรังแมงมุม จุดไฟเผาต้นไม้เพื่อที่รังแมงมุมจะได้ไหม้
- กองซากหมาล่าเนื้อ (Hound Mounds) วิ่งผ่านไปเฉยๆ หมาจะวิ่งไล่แค่ระยะของมัน
- นกตาเดียว(Tallbird) วิ่งผ่านตอนกลางคืน มันจะหลับ ถ้ากลางวันก็วิ่งหลบๆ เอา ไม่ต้องไปตีกับมัน
- ผึ้งแดง ต้องใส่เกราะ ถ้ามีหมวกฟุตบอล ด้วยยิ่งดี ดูทางวิ่งในแผนที่ให้ดี ควรวิ่งหลบๆ ไปตามขอบของแผนที่ หากจำเป็นจริงๆ ก็ต้องวิ่งฝ่าไป แต่วิธีนี้ควรมีหมวกฟุตบอลด้วย หรือถ้ามีรังผึ้งเหลืองอยู่ใกล้ก็เอาอะไรไปสุมและจุดไฟเผารังผึ้งเหลือง รังผึ้งแดงที่อยู่ใกล้จะติดไฟไปด้วย
- Clockwork Monsters แค่อย่าไปใกล้บิชอปก็พอ และวิ่งผ่านไปเร็วๆ
- บึงหนวดเทนทาเคิล(Tentacle) ง่ายสุด เปิดดูทางวิ่งในแผนที่ให้ดี แล้ววิ่งอย่าหยุด ถ้าหยุดหนวดจะตี และมันเยอะมากผู้เล่นจะโดนรุมตีตาย หากไปผิดทางก็ให้หันกลับและวิ่งออกมาทันทีโดยไม่หยุดวิ่ง จุดนี้แค่ไม่หยุดวิ่งก็ข้ามไปได้แล้ว
Archipelago สุ่มเจอในด่าน 1-4
ด่านนี้ถือว่ายาก มีรูปแบบเป็นเกาะ มีทั้งหมด 6 เกาะ การจะข้ามไปยังเกาะต่างๆ ต้องผ่านรูหนอน ซึ่งจะลดสติครั้งละ -15 และแต่ละเกาะมีรูหนอนได้มากกว่า 1 จึงควรหาให้ทั่วแผนที่ เหนื่อยมาก เพราะรูหนอนอาจอยู่ติดขอบแผนที่เลยก็ได้ เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายหากผู้เล่นยังไม่มีอาหารที่ช่วยฟื้นสติ เช่น เนื้อตากแห้ง ก็ตายได้อย่างรวดเร็ว
เกาะที่ผู้เล่นเกิดจะเป็นบึงหนวดเทนทาเคิล(Tentacle) ไม่มี Thing แต่จะมีวัสดุ อาหาร โดยเฉพาะอาหารจากมนุษย์กบ มันจะตีกับหนวดทุกวันถ้ามันอยู่ใกล้กัน ผู้เล่นไปรออาหารและอาวุธได้สบาย ทั้งยังมีแมงมุมอยู่มาก เก็บใยและต่อมแมงมุมได้ตลอดเวลา เกาะนี้ไม่มีวัสดุเพียงพอสำหรับสร้างเครื่องวิจัยได้ ผู้เล่นต้องสุ่มลงรูหนอนเพื่อไปหาวัสดุมาสร้าง ฉะนั้นหากเจอด่านนี้เป็นด่านแรก และยังไม่สามารถหาอะไรมาช่วยเพิ่มสติได้(นอกจากดอกไม้ที่มีอยู่น้อยนิด) ผู้เล่นอาจสติลดต่ำจนโดนปีศาจเงาฆ่าตาย
Two Worlds สุ่มเจอในด่าน 3-4
ด่านนี้มี 2 ดินแดน ผู้เล่นจะเกิดในดินแดนแรกที่อุดมสมบูรณ์ มีอาหาร วัสดุมากมาย รวมทั้งหมู่บ้านหมูและหมูการ์เดียน แต่อาจแจ๊คพอตเป็นฤดูร้อนในทันที ฉะนั้นเมื่อจบด่าน 2 ควรเอาหมวกน้ำแข็งหรืออุปกรณ์คลายร้อนอะไรก็ได้มาด้วย(ตามที่ผู้เล่นสะดวกสร้าง)ไม่งั้นอาจตายเพราะทำไม่ทัน(ผู้เขียนตายมาแล้ว) ถ้าไม่ได้ใช้ค่อยทิ้งไปก็ได้
*แต่ภาคปกติฤดูร้อนจะไม่ร้อนไม่ต้องเตรียมมา และหมวกน้ำแข็งอยู่ในภาค Reign of Giants DLC ภาคปกติไม่มี
ไม่มี Things ในดินแดนแห่งนี้ ผู้เล่นต้องรูลงหนอน อาจพบรูหนอนป่วย ซึ่งใช้งานได้ครั้งเดียวคือจะกลับรูนี้ไม่ได้อีก แต่ก็ยังหารูหนอนอื่นกลับได้ถ้าอยากกลับมาอีกรอบ
ในดินแดนที่สอง ผู้เล่นจะต้องรวบรวม Thing ทั้งหมดและควรผ่านด่านที่นี่เลย ไม่ต้องกลับไปดินแดนแรกอีกแล้ว ดินแดนนี้จะเป็นบึงหนวดเทนทาเคิลมีสิ่งอันตรายมากมาย และจะมืดเร็วกว่าปกติ
- ถ้า Two Worlds เป็นด่านที่ 3 ด่านถัดไปจะเป็น King of Winter หรืออาจเป็น The Game is Afoot ซึ่งต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปด้วย ที่ทำได้ง่ายและให้ความอบอุ่นได้นาน 2 นาที คือ หมวกเขาควาย
- ถ้า Two Worlds เป็นด่านที่ 4 ด่านถัดไปจะเป็น Darknes ควรเตรียมเนื้อตากแห้ง(อย่างน้อย 20) หมวกขุดเหมือง , หิ่งห้อยจำนวนมาก(อย่างน้อย 40 ตัว) จะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับหิ่งห้อย แต่ถ้าด่านนี้มีหิ่งห้อยน้อยไปหาในด่านที่ 5 ก็ได้
Darkness ด่าน 5
ด่านนี้มืดตลอดเวลา ไม่มีกลางวัน แต่ระหว่างทางจะมีเสาคบไฟของแมกซ์เวล (Maxwell's Lights) อยู่เป็นระยะๆ ตามพื้นที่ต่างๆ ทำให้สะดวกเวลาต่อสู้กับมอนสเตอร์
มีกระเป๋าสะพายหลัง backpack ตอนเริ่มเกมส์ ระหว่างทางจะมีหมูนอนหลับอยู่ เป็นเพื่อนกับหมูเพื่อเพิ่มสติหรือฆ่าเป็นอาหารได้ ด่านนี้จะมีหิน Obelisks เหมือนด่าน King of Winter
Checkmate ด่าน 6 (จบ)
ไม่มีมอนสเตอร์ จึงไม่ต้องนำอะไรติดตัวมาด้วย นอกจาก Divining Rod และกินให้อิ่มก่อนผ่านด่าน 5 หรือจะนำอาหารมาด้วยก็ได้แต่ไม่จำเป็น
ที่นี่เป็นด่านสุดท้ายที่จะพบแมกซ์เวล มันมืด แต่มีไฟตลอดทางเดิน ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากเดินไปตามทาง ไม่ต้องเลี้ยวไหน เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง หน้าจอคอมของผู้เล่นจะหมุนอัตโนมัติ ไม่ต้องทำอะไร ให้เดินตรงไปข้างหน้า จะพบแมกซ์เวลนั่งอยู่บนบัลลังก์ฝันร้าย เอา Divining Rod ไปเสียบใส่ช่องที่อยู่ขวามือ โดยเพลงจะปิดหรือไม่ปิดก็ได้ เมื่อเสียบแล้วเกมส์จะแจ้งให้ทราบว่าผู้เล่นจะปลดล๊อคแมกซ์เวลได้แต่แกจะถูกขังแทน ให้ตอบ Yes จากนั้นผู้เล่นจะถูกขังแทนแมกซ์เวล
...จบ Adventure Mode
เกมส์จะเริ่มใหม่ใน Survival Mode ผู้เล่นจะกลายเป็นแมกซ์เวลและเล่นเกมส์ต่อได้เลย(เนื่องจากผู้เขียนได้ปลดล็อกแมกซ์เวลไปแล้ว ในภาพจึงเป็นตัวละครอื่น)
Ryiku มาช่วย Link |
No comments:
Post a Comment